ภาพของพระปรางค์สูงสง่าบนพื้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือแล่นสัญจร พร้อมกับฉากหลังที่เป็นพระอาทิตย์กำลังตกดินนั้น เป็นภาพที่สวยงาม และ ยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญสุดๆของบ้านเราอีกด้วย และที่นั่นก็คือ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Temple of dawn) หรือ วัดแจ้งนั่นเอง
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร นั้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ซึ่งเป็นวัดประจํารัชกาลที่ 2 มีความสวยงามที่เรียกว่า ติดอันดับอยู่ในรายชื่อ “ต้องมาเมื่อมาเที่ยวกรุงเทพ” ของเว็บเมืองนอกหลายๆเว็บกันเลยทีเดียว
เพราะว่าตัววัดอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าสวยงามเหมือนดั่งภาพวาดเมื่อได้ชม โดยเฉพาะการชมจากฝั่งท่าเตียนที่จะได้เห็นตัวพระปรางค์เต็มตาสวยงาม จากนั้นก็ล่องเรือข้ามฝากเพื่อมาที่ตัววัดโดยตรงอย่างง่ายดาย (ค่าเรือเพียง 4.50 บาทเท่านั้น) ทำให้สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาขึ้นที่สถาที สนามไชย แล้วต่อเรือข้ามฟากมาได้เลย
เมื่อเข้ามาถึงภายในบริเวณวัดก็จะได้พบกับพระปรางค์ประธานขนาดใหญ่และพระปรางค์รองขนาดเล็กลงมาอีก 4 มุม มีความสูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตร ทำให้เคยรั้งตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในกรุงเทพตั้งแต่อดีตมาอย่างยาวนาน และยังเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในไทยและโลกอีกด้วย
ด้วยองค์พระปรางนั้นก่อด้วยอิฐถือปูน ประดับด้วยชิ้นเปลือกหอย กระเบื้องเคลือบ จานชามเบญจรงค์สีและดอกไม้ต่างๆ จากประเทศจีน และยังตกแต่งด้วยภาพปูนปั้นของเหล่ายักษ์ เทวดา สัตว์ในตำนานต่างๆสวยงาม โดยดั้งเดิมแล้วตัวพระปรางนั้นมีสีขาวผ่องจากปูนหมักแต่ด้วยกาลเวลาทำให้สีค่อยๆหมองจนดำ หลังจากนั้นจึงได้มีการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ จนกลายเป็นสีขาวสะอาดเหมือนเดิม
นอกจากนั้นภายในวัดอรุณฯนั้นก็มีสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์อีกมากมาย อย่างเช่น ยักษ์วัดแจ้ง รูปปั้นยักษ์ยืน หน้าซุ้มประตูยอดมงกุฏ มี 2 ตน ยักษ์กายสีขาวคือ สหัสเดชะ และยักษ์กายสีเขียว คือ ทศกัณฐ์ หรือ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ผู้ซึ่งริเริ่มในการบรูณะวัดอรุณฯให้ยิ่งใหญ่ เป็นต้น
นี่เป็นเพียงส่วนเดียวจากความงามและความสำคัญของ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งบริเวณวัดและสถานที่รอบๆก็มีความสำคัญที่น่าจะต้องลองไปบ้างสักครั้งเช่น วัดระฆังฯ ตลาดวังหลัง เป็นต้น หากวันหยุดที่ถึงนี้ยังไม่มีแพลนออกไปนอกต่างจังหวัด ลองชวนเด็กๆ นั่งเรือมาชมความสวยงามของวัดสำคัญของบ้านเรา ไหว้พระเพื่อขอพรรับปีใหม่กันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย