เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ทางองกรค์ UNESCO ได้มีการรับรองว่า ให้อุทยานธรณีโคราช หรือในอีกชื่อที่เรารู้จักกันคือ โคราชจีโอพาร์ค (Khorat Geopark) เป็น UNESCO Global Geopark อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเกียรติแก่จังหวัดนครราชสีมาและประเทศไทยอย่างมาก
เชื่อว่ามีหลายคนอาจจะสงสัยว่าโคราชจีโอพาร์คคืออะไร มีลักษณะยังไงนะ ทางเรามีคำตอบให้จ้า
โคราชจีโอพาร์ค คือ “พื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง” ในเขตสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา และเฉลิมพระเกียรติ จังหวักนครราชาสีมา ที่มีภูมิประเทศเขาเควสตา (เขารูปอีโต้) และฟอสซิล 3 ยุค โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ (Cuesta & Fossil Land) เชื่อมโยงกับระบบนิเวศป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และวิธีชีวิตผู้คนกว่า 4,000 ปี
ต้องบอกเลยว่าในโคราชจีโอพาร์คนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมอย่างมากมาย และทุกที่ล้วนมีจุดเด่นของตัวเองที่แตกต่างกันไป ครั้งนี้เราจะมาแนะนำจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจว่ามีอะไรกันบ้าง ใครที่พร้อมแล้ว เชิญเข้ามารับกันได้เลยจ้า
พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับไม้กลายเป็นหิน ที่มีตั้งแต่กระบวนการก่อกำเนิด การจำแนกออกเป็นประเภท ลักษณะต่าง ๆ การใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหิน การได้มาที่นี่ นับได้ว่าเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้แขนงใหม่ที่เราอาจไม่คุ้นเคย และสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่จัดแสดงได้อย่างสบายๆ เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน
พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับช้างดึกดำบรรพ์ ซึ่งเคยอาศัยอยู่บนโลกเมื่อนานมาแล้ว ภายในเราจะได้เห็นการจัดแสดงฟอสซิลของช้างดึกดำบรรพ์ที่ขุดค้นพบ มีการจำลองลักษณะเบื้องต้นให้เราได้รับชม นอกจากนี้ยังมีซากของสัตว์ชนิดอื่นให้เราได้รับชมและศึกษากันอีกด้วย
ปราสาทเมืองแขก
เป็นศาสนสถานที่สร้างด้วยศิลปะขอมอันเก่าแก่ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเพื่อถวายเทพเจ้านั่นเอง ปัจจุบัน ในบริเวณปราสาทเมืองแขกถูกใช้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการจัดงานประเพณี ”กินเข่าค่ำ” ซึ่งจัดประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี นับได้ว่าเป็นโบราณสถานที่ผูกพันธ์กับวัฒนธรรมของผู้คนมาอย่างยาวนานอีกแห่งเลย
ปราสาทหินพนมวัน
เป็นโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 15 ในลักษณะเป็นปรางค์ก่อด้วยอิฐ โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมตามความเชื่อของเขมรโบราณ มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นศาสนสถานตามความเชื่อของศาสนาฮินดูนั่นเอง นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นโบราณสถานที่เหมาะแก่การศึกษากระบวนการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี เพราะลักษณะภายนอกที่ได้เห็น ดูเหมือนตัวปราสาทจะยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์นั่นเอง
พระนอนวัดธรรมจักรเสมาราม
เป็นพระนอนหินทรายที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาเดียวกับเมืองเสมาแห่งอาณาจักรศรีจนาศะ บริเวณหน้าพระพักตร์ มีการขุดพบธรรมจักรหินทรายหรือเสมาธรรมจักรด้วย และบริเวณรอบวิหารพระนอนก็มีการพบใบเสมาหินทรายปักอยู่โดยรอบ จึงมีการสันนิษฐานว่า ตรงนี้อาจเคยเป็นศาสนสถานที่สำคัญของเมืองเสมาโบราณนั่นเอง
ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชและตลาดไทยวน
เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทยวนในอำเภอสีคิ้วที่อยู่มาเกือบ 200 ปี ที่นี่เราจะได้เห็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวไทยวนที่สะท้อนออกมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่พูด ศิลปหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณะ ภูมิปัญญา และประเพณีต่างๆ ที่สืบต่อกันมา นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสินค้าต่าง ๆ ที่ชาวบ้านผลิตด้วยภูมิปัญญาอันมีเอกลักษณ์และสวยงามจำหน่ายด้วย ซึ่งเชื่อเลยว่าต้องถูกอกถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน
ไทรงามเฉลิมพระเกียรติ
เป็นต้นไทรขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ราวกว่า 200 ปี ซึ่งมีการแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาอย่างเป็นวงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 200 ไร่นั่นเอง ที่นี่นับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นออกมาได้อย่างสวยงาม และสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามารับชมได้ไม่น้อยเลย
ผายายเที่ยง
เป็นพื้นที่อยู่บนสันเขายายเที่ยง ที่มีรูปทรงด้านข้างแบบเขาอีโต้หรือที่เรียกว่า เควสตา (Cuesta) อยู่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร ทิวทัศน์ที่มองจากบริเวณนี้นับได้ว่ามีความสวยงามและสะกดสายตาเป็นอย่างมาก เชื่อว่าที่นี่ต้องถูกใจคนที่รักธรรมชาติและขุนเขาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียง ยังมีจุดชมวิวเขายายเที่ยง ซึ่งอยู่บนอ่างพักน้ำลำตะคองชลภาวัฒนา ตรงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของขุนเขาที่ผสานกับแนวกังหันลมได้อย่างสวยงามด้วย
ถ้ำเขาจันทร์งามและภาพเขียนสี
เป็นพื้นที่ที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี โดยที่นี่เราจะได้เห็นภาพเขียนสีบนฝาผนังที่บรรพชนของเราวาดเอาไว้ ซึ่งตัวภาพได้แสดงถึงวิถีชีวิต ลักษณะสังคม การรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมบางอย่างของบรรพชน แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปี แต่ภาพเขียนนี้ก็ยังคงอยู่ให้เราได้ศึกษาและเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน
สำหรับโคราชจีโอพาร์คนั้น นับว่ามีสิ่งต่าง ๆ มากมายให้เราได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะในด้านวิทยาศาตร์หรือด้านสังคมวัฒนธรรม เชื่อว่าการได้มาเยือนบริเวณแห่งนี้ ทุกคนจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่าและความหมายอย่างแน่นอน ครั้งหน้าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวไหนน่าสนใจมาแนะนำกันอีก โปรดติดตามได้ที่เว็บ Fun D เลยจ้า
